share

เครื่องพิมพ์บัตรหัวพิมพ์ความร้อน vs เครื่องพิมพ์บัตร inkjet เลือกแบบไหนดี??

Last updated: 23 Oct 2023
214 Views
thermal vs inkjet card printer

เปรียบเทียบเทคโนโลยีการพิมพ์บัตรพลาสติก เพื่อการพิมพ์บัตรประจำตัว บัตรสมาชิก และบัตรอื่นๆที่มีการพิมพ์ข้อมูลบุคคล ในท้องตลาด หลายครั้งหากลูกค้าค้นหาข้อมูลจาก google มักจะพบเครื่องพิมพ์อยู่หลักๆ 2 ชนิดด้วยกัน คือ เครื่องพิมพ์บัตรพลาสติกแบบหัวพิมพ์ความร้อน และเครื่องพิมพ์บัตรแบบ inkjet ในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จัก เทคโนโลยีทั้งสองแบบ และข้อเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย ของแต่ละแบบเพื่อให้การเลือกใช้ของแต่ละท่านเป็นไปอย่างเหมาะสม

เทคโนโลยีการพิมพ์แบบ inkjet

หลายท่านมักจะคุ้นเคยกันดีกับการพิมพ์แบบ inkjet ที่เราใช้พิมพ์เอกสารในสำนักงาน หรือเครื่องพิมพ์ตามบ้านทั่วไป ลักษณะการพิมพ์จะประกอบไปด้วยหัวพิมพ์ที่ทำหน้าที่ฉีดสี ส่วนตัวหมึกสีจะเป็นลักษณะของเหลว แยกเป็นสี เช่น Yellow (Y), Magenta (M), Cyan (C), Black (K) โดยเครื่องพิมพ์จะทำการพ่นหมึกสีแต่ละสีเป็นหยดเล็กๆ ลงบนพื้นผิว โดยการใช้สีแต่ละสีจะมีความมากน้อยแตกต่างกันตามรูปภาพที่สั่งพิมพ์ หากรูปภาพเป็นภาพที่ออกโทนสีเหลือง สี Yellow (Y) ก็จะถูกใช้มาก หากภาพมีตัวหนังสือสีดำมาก สี Black (K) ก็จะถูกใช้มาก เป็นต้น การนำเทคโนโลยีนี้มาใช้พิมพ์พื้นผิวที่เป็นบัตร PVC หมึกสีเหล่านี้จะถูกพ่นและแห้งบนพื้นผิว ของแผ่นบัตร pvc โดยทั่วไป เราจะเห็นเครื่องพิมพ์เหล่านี้ใช้กับการพิมพ์กระดาษเอกสารมากกว่า เนื่องจากหมึกที่เป็นของเหลวจะซึมและยึดติดได้ดีบนกระดาษ

ข้อดี อย่างหนึ่งของเครื่องพิมพ์แบบ inkjet คือ ราคาถูก เนื่องจากเป็นเครื่องพิมพ์ที่หาซื้อได้ทั่วไป น้ำหมึกของ inkjet หาเติมได้ตามร้านทั่วไป หมึกแท้ หรือหมึกเทียม มีให้เลือกตามความพึงพอใจในราคาไม่แพง การใช้งานเป็นแบบ multi-function คือสามารถพิมพ์ได้ทั้งกระดาษ และบัตรพลาสติก (ต้องใช้ถาดรองใส่บัตรพิเศษเพิ่มเติม)

ข้อเสีย เครื่องพิมพ์ inkjet เหล่านี้ ทางผู้ผลิต ไม่เคยมีข้อบ่งชี้ว่า ใช้สำหรับพิมพ์บัตรพลาสติก ช่องใส่บัตร ที่เดิมทีใช้เพื่อใส่กระดาษ A4 ผู้ขายได้สร้างถาดรองรับบัตร เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการใส่บัตรพลาสติกขนาด CR-80 ซึ่งเรียกได้ว่าตามนโยบายข้อบ่งชี้การใช้งานจากผู้ผลิต เรียกว่าเป็นการใช้งานที่ผิดวิธี หากเครื่องพิมพ์เกิดปัญหาขึ้น ทางแบรนด์ผู้ผลิต ไม่มีนโยบายรับผิดชอบ การซ่อมแซม ดูแลรักษาต้องได้รับการดูแลโดยผู้ที่นำมาจำหน่ายเท่านั้น การใช้งานแบบพิมพ์ต่อเนื่องก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากต้องคอยนำบัตรใส่ลงถาดใส่บัตรก่อนนำเข้าเครื่องพิมพ์ จึงทำให้การพิมพ์ทำได้ครั้งละน้อยๆ

ที่มา: https://pantip.com/topic/33142837%E2%80%8B

เครื่องพิมพ์บัตรแบบหัวพิมพ์ความร้อน

เครื่องพิมพ์บัตรประเภทนี้คือเครื่องพิมพ์ที่ออกแบบมาเพื่อการพิมพ์บัตรพลาสติก PVC โดยเฉพาะ เทคโนโลยีการพิมพ์จะใช้หัวพิมพ์ ที่เป็นแท่งทำความร้อน ทำการระเหิดสีจากริ้บบ้อนเข้าไปในเนื้อบัตรพลาสติก (การระเหิดคือการใช้ความร้อน เปลี่ยนแผ่นริ้บบ้อนสีที่เป็นของแข็ง กลายเป็นก๊าซอย่างรวดเร็ว) ลักษณะของริ้บบ้อนจะแบ่งเป็นแถบสีต่างๆ เช่น Yellow (Y), Magenta (M), Cyan (C), Black (K) และ Overlay (O) เราจะเรียกว่า panel โดยการพิมพ์บัตร 1 หน้า หรือ รูปภาพ 1 รูป แถบสีต่างๆจะถูกใช้ได้เพียงครั้งเดียว ผ่านหัวพิมพ์ความร้อน การประมวลผลเพื่อสร้างรูปภาพจะเกิดจากการปรับระดับความร้อนอย่างแม่นยำ เช่น พื้นสีเข้ม ความร้อนจากหัวพิมพ์จะก็เพิ่มขึ้น พื้นสีอ่อน ความร้อนจากหัวพิมพ์ก็น้อยลง เป็นการทำแบบนี้เพื่อผสมสีแต่ละสีเข้าด้วยกัน และระเหิดเข้าไปในเนื้อบัตรพลาสติก นอกจากนั้นยังสามารถใช้เทคนิคนี้ในการเคลือบ overlay ที่เป็นลักษณะพื้นผิวใสๆลงบนผิวบัตรเป็นชั้นสุดท้าย เพื่อความคงทน ซึ่งส่วนนี้ เทคโนโลยีแบบ inkjet จะไม่สามารถทำได้ หากต้องการจำเป็นต้องเคลือบผิวบัตรเพื่อความคงทน จำเป็นต้องมีเครื่องเคลือบบัตรแยกกระบวนการทำงานออกมาอีกต่างหาก

ข้อดี เป็นเครื่องพิมพ์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการพิมพ์บัตรประจำตัวพลาสติกโดยเฉพาะ สีถูกย้อมเข้าไปในเนื้อบัตรพร้อมด้วยการเคลือบ overlay ทำให้ได้คุณภาพที่คงทนกว่าการพิมพ์แบบ inkjet ที่สีที่เป็นของเหลวถูกพ่นแห้งบนผิวบัตร อีกทั้งยังสามารถเพิ่มออฟชั่นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำบัตรประจำตัวพลาสติกได้อีกมากมาย เช่น การพิมพ์บัตรสองด้านอัตโนมัติ, การพิมพ์บัตรประจำตัวที่ลงข้อมูลบุคคลได้แบบต่อเนื่อง, การเขียนข้อมูลลงแถบแม่เหล็ก, การอ่าน/เขียนข้อมูลลงบัตรสมาร์ทการ์ด ทั้งแบบสัมผัส (Contact Smart Card) และแบบไร้สัมผัส (Contactless Smart Card)

ข้อเสีย หัวพิมพ์ความร้อนออกแบบมาเพื่อพิมพ์บัตรพลาสติก PVC เท่านั้น ไม่สามารถใช้งานร่วมกับการพิมพ์วัสดุชนิดอื่นได้ ตัวเครื่องมีราคาสูงกว่าเครื่องพิมพ์แบบ inkjet แต่ด้วยการที่เป็นเครื่องพิมพ์บัตรเฉพาะทาง การรับประกันและประสิทธิภาพการทำงานย่อมมีสูงกว่าหลายเท่าตัว

หมายเหตุ: บัตร pvc สำหรับเครื่องพิมพ์บัตร inkjet พื้นผิวจะมีความเหนียวกว่า บัตร pvc สำหรับเครื่องพิมพ์บัตรหัวพิมพ์ความร้อน เนื่องจากหมึกชนิดของเหลวจาก inkjet จำเป็นต้องพิมพ์ลงพื้นผิวที่สามารถยึดติดได้ดีกว่า ไม่สามารถพิมพ์ลงบัตรบัตร pvc ผิวมันเรียบได้ และในทางตรงกันข้าม บัตร pvc แบบ inkjet ที่มีความเหนียวก็ไม่สามารถนำมาใช้พิมพ์กับเครื่องพิมพ์บัตรหัวพิมพ์ความร้อนได้ เนื่องจากความเหนียวจะเข้าไปติดขัดในลูกยางลำเลียงบัตรในตัวเครื่อง ทำให้เครื่องเกิดความเสียหาย สรุปคือ ห้ามนำบัตรจากทั้งสองเทคโนโลยีมาสลับใช้กันโดยเด็ดขาด

Tags :
บทความที่เกี่ยวข้อง
hid corporate 1000
HID Corporate 1000 Format คือบริการจาก HID Global ในการกำหนด “format” เฉพาะสำหรับแต่ละองค์กรของผู้ใช้งาน โดยในแต่ละ format สามารถมีหมายเลขบัตรที่ไม่ซ้ำกันได้มากกว่า 8 ล้านหมายเลข ซึ่งหมายเลขบัตรนี้จะถูกบริหารจัดการโดย HID Global เพื่อรับรองว่าจะไม่มีการผลิตหมายเลขซ้ำกันออกมา
hid card printer watermark
องค์กรสมัยใหม่ที่ต้องการเพิ่มความปลอดภัยของบัตรโดยไม่เพิ่มราคาต่อบัตรได้ค้นพบว่าการเลือกเครื่องพิมพ์บัตรประจำตัวที่เหมาะสมสามารถสร้างความแตกต่างได้ โซลูชั่นต่างๆ เช่น เครื่องพิมพ์บัตรประจำตัว FARGO® DTC1500 จาก HID Global® มาพร้อมกับฟังก์ชั่นลายน้ำบน overlay แบบกำหนดเองในตัว ช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถนำองค์ประกอบภาพที่น่าเชื่อถือ และมีความปลอดภัยสูงไปใช้กับบัตรของตนได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
hid card format
หากจะเปรียบเทียบกับชุดตัวเลข ในชีวิตประจำวัน ตัวอย่างเช่น ถ้าเราเห็นชุดตัวเลข 19495981699 เพียงอย่างเดียว มันอาจจะไม่สามารถบ่งบอกอะไรเราได้ แต่ถ้าบอกว่า นี่คือ รูปแบบของเบอร์โทรศัพท์ประเทศสหรัฐอเมริกา เราจะสามารถตีความหมายได้ทันทีว่า เลข 1 ตัวแรกคือ Country Code และ 949 คือ Area Code ซึ่ง HID Card Format ก็เป็นไปในไอเดียเดียวกัน
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy