share

เทคโนโลยีการพิมพ์บัตรพลาสติกแบบ Direct-to-Card VS Retransfer: แบบไหนจึงจะเหมาะกับธุรกิจของคุณ?

Last updated: 23 Oct 2023
255 Views
เทคโนโลยีการพิมพ์บัตรพลาสติกแบบ Direct-to-Card VS Retransfer: แบบไหนจึงจะเหมาะกับธุรกิจของคุณ?

เราเคยได้กล่าวถึงการเปรียบเทียบเครื่องพิมพ์สองประเภทในท้องตลาดที่มักพบเจอ หากต้องการใช้งานเพื่อพิมพ์บัตรประจำตัวพลาสติก หลักจะมีด้วยกัน 2 แบบคือ แบบหัวพิมพ์ความร้อน (Thermal Printhead) และแบบ Inkjet ในบทความนี้เราจะลงรายละเอียดถึงเทคโนโลยีการพิมพ์บัตรพลาสติกแบบ หัวพิมพ์ความร้อน ที่สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 รูปแบบหลักก็คือ Direct-to-Card Printing และ Reverse Transfer (Retransfer) Printing

ก่อนอื่น เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการพิมพ์ด้วยเทคโนโลยีหัวพิมพ์ความร้อนกันก่อน การพิมพ์ด้วยหัวพิมพ์ความร้อน ลักษณะของหัวพิมพ์จะเป็นแท่งกระเบื้องแนวยาว ที่ทำหน้าที่ทำความร้อนเป็นจุด ความละเอียดของเครื่องพิมพ์บัตรทั่วไปจะอยู่ที่ 300dpi และ 600dpi ความร้อนจะถูกคำนวนอย่างแม่นยำออกมาเป็นจุดตามแนวหัวพิมพ์ เพื่อระเหิดสีจากแผ่นริ้บบ้อนลงไปเนื้อบัตรพลาสติก

ลักษณะของริ้บบ้อน จะแบ่งออกเป็นแถบสีต่างๆ ซึ่งแต่ละแถบสีจะเป็นแม่สีหลักสำหรับการพิมพ์ นั่นคือ Y – Yellow, M – Magenta, C – Cyan, K – Black ชนิดของริ้บบ้อนอาจจะมีได้แตกต่างกันออกไป เช่น YMCK, YMCKK, YMCKO, YMCKOK, K Resin Only แล้วแต่การใช้งาน โดยแต่ละแถบสีตามชื่อของชนิดริ้บบ้อนนั้นๆ จะเรียงต่อกันไปเรื่อยๆ


การพิมพ์แบบ Direct-to-Card

ในยุคเริ่มแรก เทคโนโลยีที่ใช้ในการพิมพ์บัตรพลาสติกจะเป็นการพิมพ์แบบ Direct-to-Card โดยในวิธีการพิมพ์นั้น หัวพิมพ์จะสัมผัสโดยตรงลงไปที่ผิวบัตรพลาสติก ซึ่งในขั้นตอนการพิมพ์นี้จะเป็นไปในรูปแบบ dye-sublimation ที่เป็นการระเหิดสีลงไปโดยตรงในเนื้อบัตรพลาสติก นั่นแปลว่า สิ่งวัสดุสิ้นเปลืองที่เครื่องพิมพ์ประเภทนี้จำเป็นต้องใช้ก็คือ ริบบ้อนสี และ บัตรพลาสติก PVC โดยเครื่องพิมพ์บางรุ่นอาจจะสามารถอัพเกรดเพิ่มฟังชั่นการเคลือบลามิเนตเพิ่มเติมได้

การพิมพ์แบบ Direct-to-Card เหมาะกับงานแบบไหน?

  • การพิมพ์บัตรประจำตัวพลาสติกพีวีซี ที่เน้นพื้นหลังสีขาว พิมพ์โลโก้ รูป ตัวอักษร แบบง่ายๆ artwork ไม่เน้น graphic สีเต็มใบ เพราะการพิมพ์แบบ direct-to-card หัวพิมพ์ไม่สามารถวิ่งชนขอบบัตรได้ จึงอาจจะเห็นเป็นเส้นขาวบางๆบริเวณรอบขอบบัตรหากพิมพ์สีเต็มใบ
  • การพิมพ์บนบัตร PVC ธรรมดา ไม่ใช่บัตร contact หรือ contactless สมาร์ทการ์ด หากต้องการใช้พิมพ์บัตรสมาร์ทการ์ด การออกแบบบัตรจำเป็นต้องมีข้อควรระวัง เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับหัวพิมพ์
  • การพิมพ์แบบประหยัดต้นทุน เนื่องจากใช้แค่เพียงริ้บบ้อน เพียงอย่างเดียว ที่เป็นวัสดุสิ้นเปลือง

การพิมพ์แบบ Reverse Transfer (Retransfer)

Reverse Transfer เป็นเทคโนโลยีการพิมพ์บัตรพลาสติก ที่พัฒนาขึ้นมาจากการพิมพ์แบบ Direct-to-Card โดยการพิมพ์ยังคงใช้หัวพิมพ์ความร้อนและริ้บบ้อนสีอยู่เช่นเดิม เพียงแต่การพิมพ์สีจากหัวพิมพ์ จะเป็นการพิมพ์ลงบนฟิล์มใสก่อน ซึ่งสีทุกสีจะถูกวาดเป็นรูปภาพลงบนแผ่นฟิล์มใส แล้วจากนั้นภาพจากฟิล์มจะถูกใช้ความร้อนรีดย้อมลงไปที่ผิวหน้าของบัตรอีกทีหนึ่ง นั่นหมายความว่า หัวพิมพ์ของเครื่องพิมพ์จะไม่มีการสัมผัสโดยตรงไปที่ผิวบัตรพลาสติกเลย วิธีการพิมพ์แบบนี้ นอกจากริ้บบ้อนแล้ว จึงจำเป็นต้องมี ฟิล์ม เพิ่มเข้ามาเป็นวัสดุสิ้นเปลืองอีกส่วนหนึ่ง ในส่วนของตัวบัตรพลาสติกในใช้ในการพิมพ์นั้น จำเป็นต้องใช้วัสดุที่ทนความร้อนได้สูงกว่า PVC เนื่องจากในขั้นตอนการใช้ความร้อนรีดสีจากฟิล์มลงบนบัตรนั้น จะเป็นการใช้ความร้อนที่ค่อนข้างสูง ดังนั้น อย่างน้อยควรจะใช้บัตรพลาสติกที่ทำมาจาก PVC Composite หรือ PET สำหรับเครื่องพิมพ์ประเภทนี้

การพิมพ์แบบ Retransfer เหมาะสำหรับ?

  • งานพิมพ์ที่ต้องการคุณภาพการพิมพ์ที่คมชัด สวยงาม มากกว่าแบบ Direct-to-Card เครื่องพิมพ์บางรุ่นสามารถมีความละเอียดการพิมพ์ได้สูงถึง 600dpi สามารถพิมพ์ตัวอักษรขนาดเล็กได้ (micro-text)
  • เหมาะสำหรับ งานพิมพ์สีที่ต้องการพิมพ์สีเต็มจนถึงขอบบัตร (over-the-edge printing) การใช้รูปพื้นหลังที่เป็นสีเต็มใบ ได้อย่างไม่มีปัญหา
  • พิมพ์บัตรประจำตัวประเภทบัตรสมาร์ทการ์ด ทั้งในรูปแบบ contact และ contactless เนื่องจากหัวพิมพ์ไม่มีการสัมผัสโดยตรงบนบัตร สภาพพื้นผิว ที่อาจจะไม่เรียบเนื่องจากตำแหน่งไมโครชิพของบัตร จึงไม่สร้างปัญหาให้กับเครื่องพิมพ์ประเภทนี้
  • และเนื่องจากหัวพิมพ์ไม่มีการสัมผัสกับบัตร และวัสดุภายนอกอื่นใด โดยทั่วไปหัวพิมพ์ของเครื่องพิมพ์ประเภทนี้จะมีการรับประกันตลอดอายุการใช้งาน ไม่เหมือนแบบ Direct-to-Card

ตารางเปรียบเทียบการพิมพ์บัตรพลาสติกแบบ Direct-to-Card และ Retransfer Printing

Direct-to-Card Printing

Retransfer Printing

คุณภาพงานพิมพ์ขึ้นอยู่กับคุณภาพของเนื้อบัตรพลาสติก

งานพิมพ์คุณภาพสูง (High Definition)

การพิมพ์ใช้ความร้อนไม่มาก เหมาะกับงานพิมพ์บนบัตร PVC ทั่วไป

การพิมพ์จะใช้ความร้อนสูงกว่าแบบ Direct-To-Card บัตรที่ใช้จึงจำเป็นต้องเป็นบัตรที่ทนความร้อนได้ดี

งานพิมพ์บัตรจะเหลือขอบขาวรอบบัตร เพื่อป้องกันความเสียหายกับหัวพิมพ์

สามารถพิมพ์ภาพแบบ edge-to-edge ได้อย่างสมบูรณ์

หัวพิมพ์สัมผัสกับบัตรทุกครั้งที่พิมพ์ ไม่เหมาะกับการนำมาใช้พิมพ์บัตรสมาร์ทการ์ด

เนื่องจากหัวพิมพ์ไม่สัมผัสกับบัตร จึงไม่มีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดความเสียหายกับหัวพิมพ์ (รับประกันตลอดอายุการใช้งาน)

หากคุณกำลังมองหาเครื่องพิมพ์บัตรพลาสติก สำหรับองค์กร และกำลังตัดสินใจเลือกเครื่องพิมพ์ที่เหมาะสมทั้งในด้านงบประมาณ คุณภาพ และการใช้งาน ขอแนะนำให้ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญเช่นเรา

Tags :
บทความที่เกี่ยวข้อง
hid corporate 1000
HID Corporate 1000 Format คือบริการจาก HID Global ในการกำหนด “format” เฉพาะสำหรับแต่ละองค์กรของผู้ใช้งาน โดยในแต่ละ format สามารถมีหมายเลขบัตรที่ไม่ซ้ำกันได้มากกว่า 8 ล้านหมายเลข ซึ่งหมายเลขบัตรนี้จะถูกบริหารจัดการโดย HID Global เพื่อรับรองว่าจะไม่มีการผลิตหมายเลขซ้ำกันออกมา
hid card printer watermark
องค์กรสมัยใหม่ที่ต้องการเพิ่มความปลอดภัยของบัตรโดยไม่เพิ่มราคาต่อบัตรได้ค้นพบว่าการเลือกเครื่องพิมพ์บัตรประจำตัวที่เหมาะสมสามารถสร้างความแตกต่างได้ โซลูชั่นต่างๆ เช่น เครื่องพิมพ์บัตรประจำตัว FARGO® DTC1500 จาก HID Global® มาพร้อมกับฟังก์ชั่นลายน้ำบน overlay แบบกำหนดเองในตัว ช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถนำองค์ประกอบภาพที่น่าเชื่อถือ และมีความปลอดภัยสูงไปใช้กับบัตรของตนได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
hid card format
หากจะเปรียบเทียบกับชุดตัวเลข ในชีวิตประจำวัน ตัวอย่างเช่น ถ้าเราเห็นชุดตัวเลข 19495981699 เพียงอย่างเดียว มันอาจจะไม่สามารถบ่งบอกอะไรเราได้ แต่ถ้าบอกว่า นี่คือ รูปแบบของเบอร์โทรศัพท์ประเทศสหรัฐอเมริกา เราจะสามารถตีความหมายได้ทันทีว่า เลข 1 ตัวแรกคือ Country Code และ 949 คือ Area Code ซึ่ง HID Card Format ก็เป็นไปในไอเดียเดียวกัน
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy